overcast (kookv)
#บังทันวีคลี่
Week19; Silence (ฟิคเงียบไร้บทพูดมีแต่บรรยาย)
title : overcast
couple : kookv ( jungkook x taehyung )
rate : not sure :X
hashtag : #คลังน้องจอนพี่แท
note : ลงไว้นานแล้ว ฮ่า เลยอยากเอามาลงในนี้ด้วยน่ะค่ะ
เม้นในเด็กดี cilck
ขวับ
นิ้วเรียวควบคุมการเคลื่อนไหวของด้ามปากกาน้ำเงินในมืออย่างคล่องแคล่ว เสียงบรรยายของลุงแก่หน้าคลาสที่ต้องฟังทุกๆสัปดาห์มันช่างทำให้เจ้าของนิ้วเรียวอยากจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องตอนนี้เสียจริง ดวงตากลมเลื่อนการจับจ้องปากกาในมือไปยังหน้าต่างข้างๆตน ท้องฟ้ายามบ่ายที่ไร้แดดจากดวงอาทิตย์เป็นสีฟ้าอ่อนปนเทาจาง ราวกับมีเมฆฝน แต่ไม่ มันเป็นแบบนี้มาหลายวันแต่ฝนก็ไม่ได้หยดลงซักเม็ด
แน่นอนว่าบรรยากาศแบบนี้ไม่ใช่แบบที่จอนจองกุกชอบซักเท่าไหร่ สีหม่นๆในคลาสกับเสียงของตาแก่ที่เข้าโสตประสาทเป็นยากล่อมได้ชั้นดี
แต่
จองกุกเลื่อนสายตาอีกครั้ง เยื้องจากทิศเดิมไปเพียงนิด ที่นั่งริมสุดชิดหน้าต่างมีเพียงผู้ชายคนเดียวที่นั่งอยู่บริเวณนั้น เส้นผมสีน้ำตาลเข้มมันวาว ใบหน้าเรียวที่ดูเปล่งประกายออกมาเหมือนแสงแดดจากกระจกกระทบสู่ผิวหน้าน้ำผึ้ง นิ้วเรียวดันแว่นตาที่บังดวงตาเรียวสวยข้างใต้ให้ชิดกลับเข้าจมูกโด่ง เลื่อนจากปลายนิ้วสู่ข้อมือเรียวสวย ลำคอเรียวยาวและผิวสีแทนน้ำผึ้งข้างในเสื้อเชิตน้ำเงินอ่อน ใบหน้าที่น่าหลงไหลนั่นไม่สามารถคาดเดาได้ว่ากำลังตั้งใจฟังสิ่งที่อาจารย์สอนหรือกำลังคิดอะไรอยู่
เขาไม่แน่ใจว่าตัวเองวางสายตาไปที่คนนั้นนานเท่าไหร่ กลิ่นหอมอ่อนๆแตะเข้าที่ปลายจมูกเป็นระยะนั่นยิ่งทำให้เขาเหมือนกับอยู่ในห้วง เขารู้สึกเหมือนกำลังจับจ้องงานศิลปะหายากที่ถูกสร้างอย่างประณีต
เคร้ง..
ปากกาน้ำเงินที่เคยอยู่ในมือกลับร่วงไปอยู่กับพื้น เสียงกระทบที่ดังก้องทั่วคลาสทำให้เหล่านักศึกษาและอาจารย์หันมาให้ความสนใจเพียงครู่แล้วกลับเป็นปกติ จองกุกหันไปรอบๆอย่างช้าๆแล้วถอนหายใจ เผลอขนาดทำปากการ่วงเลยหรอวะ... เขาก้มเก็บปากกาแล้วจัดการวางให้เข้าที่บนโต๊ะเลคเชอร์ จองกุกเงยหน้าขึ้นด้วยความตั้งใจที่ว่าจะเริ่มสนใจสิ่งที่ตาแก่สอนแล้ว
แต่มันก็พังลง
ด้วยรอยยิ้มของคนที่นั่งริมหน้าต่างนั่น ที่กำลังสบตากับเขา แววตาประกายขบขันใต้กรอบแว่นทำให้จองกุกนิ่งงัน เพียงเสี้ยววิ อีกฝ่ายก็ผละหันกลับไป มันพังจริงๆ
จองกุกไม่รับรู้อะไรอีกเลยหลังจากนั้น
จองกุกยิ้มและรับเครื่องดื่มจากบาเทนเดอร์ มือหนาแกว่งแก้วในมือเบาๆพร้อมกวาดสายตาไปรอบๆ แสงสีสาดส่องตัดกับความมืดในสถานที่รื่นรมย์แห่งนี้ เสียงดนตรีกระหึ่มกลบทุกเสียงที่เอ่ย สิ่งแรกที่สะดุดตาเขาคือเพื่อนของเขาปาร์คจีมินที่มีหญิงสาวข้างกาย และมีเพื่อนในกลุ่มอยู่บริเวณรอบๆซึ่งดูไม่คิดที่จะคุยกันแต่อย่างใด เพราะมีขนมชิ้นหวานไว้ครอบครองในวงแขนทุกคน
ขนมชิ้นหวาน...
คนๆนั้นโผล่ขึ้นมาในหัวของจองกุกแทบทันที นั่นยิ่งทำให้จองกุกอยากจะดื่มจนสะบัดให้ออกจากหัวไปให้ได้
แต่มันก็ไม่เคยสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกัน
คนๆนั้น –คิมแทฮยอง เพื่อนร่วมคลาสที่ไม่ได้เจอกันบ่อย มักจะมาพร้อมกับท้องฟ้าสีฟ้าหม่นและแว่นตาไร้กรอบทุกครั้ง คนที่มักจะดึงความสนใจทุกอย่างไป ไม่เคยพูดคุยกันและทักทาย เพียงแค่สบตาและรอยยิ้มที่มักมอบให้ก็กลับทำให้จองกุสลัดภาพนั้นออกไม่ได้ทั้งวัน รวมถึงวันนี้ด้วย
ทำให้อารมณ์เสียจนน่าประหลาด แต่ก็ละสายตาไปไม่ได้เลย
เขาคิดว่ามันเป็นความหลงใหล...ความต้องการและครอบครอง...
ไม่ใช่ความรัก..
กริ้ง...
เสียงกังวานของน้ำแข็งดังขึ้นข้างๆกาย เขาเหลือบตาไปมอง แวบแรกเขาเห็นเป็นแทฮยองกำลังนั่งแกว่งแก้วใส่น้ำสีอำพันส่งรอยยิ้มให้ แต่เสี้ยวต่อมาภาพก็ถูกตัดไปเป็นชายอีกคนนั่งแทนที่ เมาแล้วสินะ.. จองกุกสะบัดศีรษะตัวเองแล้วเพ่งคนตรงหน้าอีกครั้ง ภาพตรงหน้าคือชายหนุ่มใบหน้าหวานเปื้อนรอยยิ้มส่งมาให้ นิ้วเรียวที่จับแก้วใสกวักเข้าตัวช้าๆ จองกุกรู้..มันคือการเชิญชวน
และแน่นอนว่าคนแบบเขาไม่ปฏิเสท
ฟู่ว...
ควันสีขาวถูกปล่อยออกมาจากริมฝีปากหยัก กลิ่นบุหรี่ฟุ้งลอยตามลมที่เข้ามาทางหน้าต่าง แสงแดดอ่อนๆส่องเผยให้เห็นสองร่างที่นอนอยู่บนเตียงกว้าง บนคอนโดสูงสิบกว่าชั้นทำให้ไร้เสียงรบกวนจากข้างล่าง มีเพียงเสียงนกและลมเท่านั้นที่เข้าหูจองกุก
เขาเอี้ยวตัวไปยังหัวเตียงแล้วบี้สิ่งที่อยู่ในมือให้มอดบนที่เขี่ยบุหรี่แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เคลื่อนย้ายร่างกายที่มีมัดกล้ามสวยไม่มากเกินไร้สิ่งปกปิดไปยังห้องน้ำ ตั้งแต่ตอนนั้น กระทั่งตอนร่วมรักกับอีกคน และจนตอนนี้
ใบหน้าที่มีรอยยิ้มสี่เหลี่ยมนั่นก็ยังไม่หายไปจากหัว
ต้องการ ความต้องการมันมากขึ้น...
แย่...แบบนี้มันแย่สำหรับตัวเขาจริงๆ...
เป็นอีกคืนที่เขากลับมาที่ผับ
ที่นั่งที่เดิม เครื่องดื่มแบบเดิม และเพื่อนกลุ่มเดิมซึ่งก็แยกย้ายกันเหมือนเดิม
และแทฮยองก็ยังวนเวียนอย่ภายในหัวเขาเหมือนเดิม
คำสบถถูกพ่นออกมาเมื่อรู้ตัวว่าเขาคิดถึงแทฮยองอีกแล้ว มือเรียวขยี้ผมตัวเองอย่างแรงแล้วกระดกเครื่องดื่มสีอำพันเข้าปาก แต่กลับมีแอลกอฮอล์เข้ากายมากเท่าไหร่ ความต้องการภายในตัวก็ยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น ยิ่งพยายามผลัก ก็ยิ่งฉายชัดขึ้นในหัวจนทรมาน
ความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าอะไรวะ..
จองกุกสะบัดหัวตัวเองแรงๆแล้วกวาดสายตาไปรอบๆเพื่อหาขนมหวานแทนที่คนที่อยู่ในหัวเช่นเมื่อวาน แต่ไม่ว่าจะสบตากับใครหรือโดนชักเชิญยังไง ความรู้สึกข้างในกลับบิดม้วนราวกับว่าสิ่งที่จะมาเติมเต็มได้มีเพียงคิมแทฮยองเท่านั้น ดวงตาปรือยังคงวางสายตาไปอย่างเลื่อนลอยไร้จุดหมาย
และอีกครั้งที่เขาเห็นแทฮยอง
จองกุกคิดว่าเป็นเพียงภาพหลอนเมื่อคราวก่อน
แต่ถึงเพ่งขนาดไหน สะบัดหัวกี่รอบ แทฮยองก็ยังคงอยู่ตรงนั้น นั่งอยู่ริมสุดท่ามกลางกลุ่มผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ดวงตาที่เคยเรียวสวยปรือฉ่ำและไร้แว่นตาเช่นเคย ใบหน้าและผิวน้ำผึ้งกลับมีสีแดงฝาดของเลือดและรอยยิ้มสี่เหลี่ยมที่ดูจะควบคุมไม่ค่อยได้ เสื้อเชิตที่ชอบใส่คราวนี้เป็นสีดำและกระดุมเม็ดบนที่ถูกปลดหลายเม็ด เขาเห็นเห็นแทฮยอง
ราวกับถูกสะกด ดวงตาสีดำขลับนิ่งค้างอยู่เนิ่นนานแต่เจ้าตัวก็ยังคงไม่รู้ตัว จนคนที่นั่งข้างๆแทฮยองสะกิดให้อีกฝ่ายรู้และหันมาสบตากับเขา ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มกว้างแล้วโบกมือเรียวของตัวเองให้ไปมาอย่างร่าเริง
ใช่ เขารู้ว่าแทฮยองกำลังเมา
แต่มันกลับทำให้หัวใจของเขากระตุกวาบจนเจ็บทั่วร่างกาย
ต้องการ..
ต้องการแทฮยองให้เป็นของเขาคนเดียว...
ตอนไหนไม่รู้ที่เสียงปิดประตูดังขึ้น
แม้กระทั่งตอนที่ผลักแทฮยองลงบนเตียงส่วนตัวของตัวเองก็ยังไม่รู้สึกตัว
ความรู้สึกล่องลอยราวกับไม่ได้ยืนอยู่บนโลกเมื่อมองสำรวจใบหน้าและร่างกายสวยงามราวกับงานศิลปะ อยากจะสัมผัส อยากจะครอบครอง อยากลิ้มรส อยากเก็บไว้ข้างกาย ความรู้สึกถาโถมเข้ามาล้นทะลักราวกับว่าตัวเขาเองต้องการสิ่งนี้มานาน
ริมฝีปากนุ่มรสหวานที่ไม่ว่าจะชิมเท่าใดก็ไม่พอ ความต้องการที่เขาตักตวงจากอีกฝ่ายมาจากโพรงปากราวกับไม่หมดสิ้น เขารับรู้ได้ถึงความร้อนข้างในของตัวเองและแทฮยองที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
จองกุกไล่สายตาตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้าของอีกฝ่าย เขาต้องการเก็บภาพไว้ไม่ให้ขาดส่วนไหนไป ร่างกายที่ไร้สิ่งปกปิดเผยให้เห็นผิวสีแทนที่สวยจนอยากตีตราไว้
ทุกการกระทำที่กำลังดำเนิน ทุกโสตเสียงที่ออกมาจากริมฝีปากบาง ทุกการตอบสนองของร่างกายอีกฝ่าย มันยิ่งทำให้จองกุกคิดว่าเขากำลังฝันไป
และถ้าต้องตื่นมาเจอแทฮยองที่ไม่อยู่ข้างกาย
เขาก็อยากจะอยู่ในฝันนี้ตลอดไป
สิ่งแรกที่จองกุกทำเมื่อตื่นขึ้นคือหันไปมองข้างกาย
ภาพตรงหน้าคือชายคนหนึ่งที่มีผมสีน้ำตาลเข้มและผิวสีน้ำผึ้งกำลังนอนขดและหายใจสม่ำเสมอ
เขาไม่แปลกใจตัวเองแล้วว่าทำไมความรู้สึกโล่งใจถึงเข้ามาเมื่อเห็นแทฮยองนอนอยู่ข้างๆ
ความรู้สึกนี้คงเรียกว่าชอบสินะ..
end
Week19; Silence (ฟิคเงียบไร้บทพูดมีแต่บรรยาย)
title : overcast
couple : kookv ( jungkook x taehyung )
rate : not sure :X
hashtag : #คลังน้องจอนพี่แท
note : ลงไว้นานแล้ว ฮ่า เลยอยากเอามาลงในนี้ด้วยน่ะค่ะ
เม้นในเด็กดี cilck
ขวับ
นิ้วเรียวควบคุมการเคลื่อนไหวของด้ามปากกาน้ำเงินในมืออย่างคล่องแคล่ว เสียงบรรยายของลุงแก่หน้าคลาสที่ต้องฟังทุกๆสัปดาห์มันช่างทำให้เจ้าของนิ้วเรียวอยากจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องตอนนี้เสียจริง ดวงตากลมเลื่อนการจับจ้องปากกาในมือไปยังหน้าต่างข้างๆตน ท้องฟ้ายามบ่ายที่ไร้แดดจากดวงอาทิตย์เป็นสีฟ้าอ่อนปนเทาจาง ราวกับมีเมฆฝน แต่ไม่ มันเป็นแบบนี้มาหลายวันแต่ฝนก็ไม่ได้หยดลงซักเม็ด
แน่นอนว่าบรรยากาศแบบนี้ไม่ใช่แบบที่จอนจองกุกชอบซักเท่าไหร่ สีหม่นๆในคลาสกับเสียงของตาแก่ที่เข้าโสตประสาทเป็นยากล่อมได้ชั้นดี
แต่
จองกุกเลื่อนสายตาอีกครั้ง เยื้องจากทิศเดิมไปเพียงนิด ที่นั่งริมสุดชิดหน้าต่างมีเพียงผู้ชายคนเดียวที่นั่งอยู่บริเวณนั้น เส้นผมสีน้ำตาลเข้มมันวาว ใบหน้าเรียวที่ดูเปล่งประกายออกมาเหมือนแสงแดดจากกระจกกระทบสู่ผิวหน้าน้ำผึ้ง นิ้วเรียวดันแว่นตาที่บังดวงตาเรียวสวยข้างใต้ให้ชิดกลับเข้าจมูกโด่ง เลื่อนจากปลายนิ้วสู่ข้อมือเรียวสวย ลำคอเรียวยาวและผิวสีแทนน้ำผึ้งข้างในเสื้อเชิตน้ำเงินอ่อน ใบหน้าที่น่าหลงไหลนั่นไม่สามารถคาดเดาได้ว่ากำลังตั้งใจฟังสิ่งที่อาจารย์สอนหรือกำลังคิดอะไรอยู่
เขาไม่แน่ใจว่าตัวเองวางสายตาไปที่คนนั้นนานเท่าไหร่ กลิ่นหอมอ่อนๆแตะเข้าที่ปลายจมูกเป็นระยะนั่นยิ่งทำให้เขาเหมือนกับอยู่ในห้วง เขารู้สึกเหมือนกำลังจับจ้องงานศิลปะหายากที่ถูกสร้างอย่างประณีต
เคร้ง..
ปากกาน้ำเงินที่เคยอยู่ในมือกลับร่วงไปอยู่กับพื้น เสียงกระทบที่ดังก้องทั่วคลาสทำให้เหล่านักศึกษาและอาจารย์หันมาให้ความสนใจเพียงครู่แล้วกลับเป็นปกติ จองกุกหันไปรอบๆอย่างช้าๆแล้วถอนหายใจ เผลอขนาดทำปากการ่วงเลยหรอวะ... เขาก้มเก็บปากกาแล้วจัดการวางให้เข้าที่บนโต๊ะเลคเชอร์ จองกุกเงยหน้าขึ้นด้วยความตั้งใจที่ว่าจะเริ่มสนใจสิ่งที่ตาแก่สอนแล้ว
แต่มันก็พังลง
ด้วยรอยยิ้มของคนที่นั่งริมหน้าต่างนั่น ที่กำลังสบตากับเขา แววตาประกายขบขันใต้กรอบแว่นทำให้จองกุกนิ่งงัน เพียงเสี้ยววิ อีกฝ่ายก็ผละหันกลับไป มันพังจริงๆ
จองกุกไม่รับรู้อะไรอีกเลยหลังจากนั้น
จองกุกยิ้มและรับเครื่องดื่มจากบาเทนเดอร์ มือหนาแกว่งแก้วในมือเบาๆพร้อมกวาดสายตาไปรอบๆ แสงสีสาดส่องตัดกับความมืดในสถานที่รื่นรมย์แห่งนี้ เสียงดนตรีกระหึ่มกลบทุกเสียงที่เอ่ย สิ่งแรกที่สะดุดตาเขาคือเพื่อนของเขาปาร์คจีมินที่มีหญิงสาวข้างกาย และมีเพื่อนในกลุ่มอยู่บริเวณรอบๆซึ่งดูไม่คิดที่จะคุยกันแต่อย่างใด เพราะมีขนมชิ้นหวานไว้ครอบครองในวงแขนทุกคน
ขนมชิ้นหวาน...
คนๆนั้นโผล่ขึ้นมาในหัวของจองกุกแทบทันที นั่นยิ่งทำให้จองกุกอยากจะดื่มจนสะบัดให้ออกจากหัวไปให้ได้
แต่มันก็ไม่เคยสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกัน
คนๆนั้น –คิมแทฮยอง เพื่อนร่วมคลาสที่ไม่ได้เจอกันบ่อย มักจะมาพร้อมกับท้องฟ้าสีฟ้าหม่นและแว่นตาไร้กรอบทุกครั้ง คนที่มักจะดึงความสนใจทุกอย่างไป ไม่เคยพูดคุยกันและทักทาย เพียงแค่สบตาและรอยยิ้มที่มักมอบให้ก็กลับทำให้จองกุสลัดภาพนั้นออกไม่ได้ทั้งวัน รวมถึงวันนี้ด้วย
ทำให้อารมณ์เสียจนน่าประหลาด แต่ก็ละสายตาไปไม่ได้เลย
เขาคิดว่ามันเป็นความหลงใหล...ความต้องการและครอบครอง...
ไม่ใช่ความรัก..
กริ้ง...
เสียงกังวานของน้ำแข็งดังขึ้นข้างๆกาย เขาเหลือบตาไปมอง แวบแรกเขาเห็นเป็นแทฮยองกำลังนั่งแกว่งแก้วใส่น้ำสีอำพันส่งรอยยิ้มให้ แต่เสี้ยวต่อมาภาพก็ถูกตัดไปเป็นชายอีกคนนั่งแทนที่ เมาแล้วสินะ.. จองกุกสะบัดศีรษะตัวเองแล้วเพ่งคนตรงหน้าอีกครั้ง ภาพตรงหน้าคือชายหนุ่มใบหน้าหวานเปื้อนรอยยิ้มส่งมาให้ นิ้วเรียวที่จับแก้วใสกวักเข้าตัวช้าๆ จองกุกรู้..มันคือการเชิญชวน
และแน่นอนว่าคนแบบเขาไม่ปฏิเสท
ฟู่ว...
ควันสีขาวถูกปล่อยออกมาจากริมฝีปากหยัก กลิ่นบุหรี่ฟุ้งลอยตามลมที่เข้ามาทางหน้าต่าง แสงแดดอ่อนๆส่องเผยให้เห็นสองร่างที่นอนอยู่บนเตียงกว้าง บนคอนโดสูงสิบกว่าชั้นทำให้ไร้เสียงรบกวนจากข้างล่าง มีเพียงเสียงนกและลมเท่านั้นที่เข้าหูจองกุก
เขาเอี้ยวตัวไปยังหัวเตียงแล้วบี้สิ่งที่อยู่ในมือให้มอดบนที่เขี่ยบุหรี่แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เคลื่อนย้ายร่างกายที่มีมัดกล้ามสวยไม่มากเกินไร้สิ่งปกปิดไปยังห้องน้ำ ตั้งแต่ตอนนั้น กระทั่งตอนร่วมรักกับอีกคน และจนตอนนี้
ใบหน้าที่มีรอยยิ้มสี่เหลี่ยมนั่นก็ยังไม่หายไปจากหัว
ต้องการ ความต้องการมันมากขึ้น...
แย่...แบบนี้มันแย่สำหรับตัวเขาจริงๆ...
เป็นอีกคืนที่เขากลับมาที่ผับ
ที่นั่งที่เดิม เครื่องดื่มแบบเดิม และเพื่อนกลุ่มเดิมซึ่งก็แยกย้ายกันเหมือนเดิม
และแทฮยองก็ยังวนเวียนอย่ภายในหัวเขาเหมือนเดิม
คำสบถถูกพ่นออกมาเมื่อรู้ตัวว่าเขาคิดถึงแทฮยองอีกแล้ว มือเรียวขยี้ผมตัวเองอย่างแรงแล้วกระดกเครื่องดื่มสีอำพันเข้าปาก แต่กลับมีแอลกอฮอล์เข้ากายมากเท่าไหร่ ความต้องการภายในตัวก็ยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น ยิ่งพยายามผลัก ก็ยิ่งฉายชัดขึ้นในหัวจนทรมาน
ความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าอะไรวะ..
จองกุกสะบัดหัวตัวเองแรงๆแล้วกวาดสายตาไปรอบๆเพื่อหาขนมหวานแทนที่คนที่อยู่ในหัวเช่นเมื่อวาน แต่ไม่ว่าจะสบตากับใครหรือโดนชักเชิญยังไง ความรู้สึกข้างในกลับบิดม้วนราวกับว่าสิ่งที่จะมาเติมเต็มได้มีเพียงคิมแทฮยองเท่านั้น ดวงตาปรือยังคงวางสายตาไปอย่างเลื่อนลอยไร้จุดหมาย
และอีกครั้งที่เขาเห็นแทฮยอง
จองกุกคิดว่าเป็นเพียงภาพหลอนเมื่อคราวก่อน
แต่ถึงเพ่งขนาดไหน สะบัดหัวกี่รอบ แทฮยองก็ยังคงอยู่ตรงนั้น นั่งอยู่ริมสุดท่ามกลางกลุ่มผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ดวงตาที่เคยเรียวสวยปรือฉ่ำและไร้แว่นตาเช่นเคย ใบหน้าและผิวน้ำผึ้งกลับมีสีแดงฝาดของเลือดและรอยยิ้มสี่เหลี่ยมที่ดูจะควบคุมไม่ค่อยได้ เสื้อเชิตที่ชอบใส่คราวนี้เป็นสีดำและกระดุมเม็ดบนที่ถูกปลดหลายเม็ด เขาเห็นเห็นแทฮยอง
ราวกับถูกสะกด ดวงตาสีดำขลับนิ่งค้างอยู่เนิ่นนานแต่เจ้าตัวก็ยังคงไม่รู้ตัว จนคนที่นั่งข้างๆแทฮยองสะกิดให้อีกฝ่ายรู้และหันมาสบตากับเขา ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มกว้างแล้วโบกมือเรียวของตัวเองให้ไปมาอย่างร่าเริง
ใช่ เขารู้ว่าแทฮยองกำลังเมา
แต่มันกลับทำให้หัวใจของเขากระตุกวาบจนเจ็บทั่วร่างกาย
ต้องการ..
ต้องการแทฮยองให้เป็นของเขาคนเดียว...
ตอนไหนไม่รู้ที่เสียงปิดประตูดังขึ้น
แม้กระทั่งตอนที่ผลักแทฮยองลงบนเตียงส่วนตัวของตัวเองก็ยังไม่รู้สึกตัว
ความรู้สึกล่องลอยราวกับไม่ได้ยืนอยู่บนโลกเมื่อมองสำรวจใบหน้าและร่างกายสวยงามราวกับงานศิลปะ อยากจะสัมผัส อยากจะครอบครอง อยากลิ้มรส อยากเก็บไว้ข้างกาย ความรู้สึกถาโถมเข้ามาล้นทะลักราวกับว่าตัวเขาเองต้องการสิ่งนี้มานาน
ริมฝีปากนุ่มรสหวานที่ไม่ว่าจะชิมเท่าใดก็ไม่พอ ความต้องการที่เขาตักตวงจากอีกฝ่ายมาจากโพรงปากราวกับไม่หมดสิ้น เขารับรู้ได้ถึงความร้อนข้างในของตัวเองและแทฮยองที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
จองกุกไล่สายตาตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้าของอีกฝ่าย เขาต้องการเก็บภาพไว้ไม่ให้ขาดส่วนไหนไป ร่างกายที่ไร้สิ่งปกปิดเผยให้เห็นผิวสีแทนที่สวยจนอยากตีตราไว้
ทุกการกระทำที่กำลังดำเนิน ทุกโสตเสียงที่ออกมาจากริมฝีปากบาง ทุกการตอบสนองของร่างกายอีกฝ่าย มันยิ่งทำให้จองกุกคิดว่าเขากำลังฝันไป
และถ้าต้องตื่นมาเจอแทฮยองที่ไม่อยู่ข้างกาย
เขาก็อยากจะอยู่ในฝันนี้ตลอดไป
สิ่งแรกที่จองกุกทำเมื่อตื่นขึ้นคือหันไปมองข้างกาย
ภาพตรงหน้าคือชายคนหนึ่งที่มีผมสีน้ำตาลเข้มและผิวสีน้ำผึ้งกำลังนอนขดและหายใจสม่ำเสมอ
เขาไม่แปลกใจตัวเองแล้วว่าทำไมความรู้สึกโล่งใจถึงเข้ามาเมื่อเห็นแทฮยองนอนอยู่ข้างๆ
ความรู้สึกนี้คงเรียกว่าชอบสินะ..
end
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น