overcast (kookv)

#บังทันวีคลี่
Week19; Silence (ฟิคเงียบไร้บทพูดมีแต่บรรยาย)


title : overcast
couple : kookv ( jungkook x taehyung )
rate : not sure :X
hashtag : #คลังน้องจอนพี่แท
note : ลงไว้นานแล้ว ฮ่า เลยอยากเอามาลงในนี้ด้วยน่ะค่ะ
เม้นในเด็กดี  cilck








            ขวับ







            นิ้วเรียวควบคุมการเคลื่อนไหวของด้ามปากกาน้ำเงินในมืออย่างคล่องแคล่ว เสียงบรรยายของลุงแก่หน้าคลาสที่ต้องฟังทุกๆสัปดาห์มันช่างทำให้เจ้าของนิ้วเรียวอยากจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องตอนนี้เสียจริง ดวงตากลมเลื่อนการจับจ้องปากกาในมือไปยังหน้าต่างข้างๆตน ท้องฟ้ายามบ่ายที่ไร้แดดจากดวงอาทิตย์เป็นสีฟ้าอ่อนปนเทาจาง ราวกับมีเมฆฝน แต่ไม่ มันเป็นแบบนี้มาหลายวันแต่ฝนก็ไม่ได้หยดลงซักเม็ด



            แน่นอนว่าบรรยากาศแบบนี้ไม่ใช่แบบที่จอนจองกุกชอบซักเท่าไหร่ สีหม่นๆในคลาสกับเสียงของตาแก่ที่เข้าโสตประสาทเป็นยากล่อมได้ชั้นดี





            แต่





            จองกุกเลื่อนสายตาอีกครั้ง เยื้องจากทิศเดิมไปเพียงนิด ที่นั่งริมสุดชิดหน้าต่างมีเพียงผู้ชายคนเดียวที่นั่งอยู่บริเวณนั้น เส้นผมสีน้ำตาลเข้มมันวาว ใบหน้าเรียวที่ดูเปล่งประกายออกมาเหมือนแสงแดดจากกระจกกระทบสู่ผิวหน้าน้ำผึ้ง นิ้วเรียวดันแว่นตาที่บังดวงตาเรียวสวยข้างใต้ให้ชิดกลับเข้าจมูกโด่ง เลื่อนจากปลายนิ้วสู่ข้อมือเรียวสวย ลำคอเรียวยาวและผิวสีแทนน้ำผึ้งข้างในเสื้อเชิตน้ำเงินอ่อน ใบหน้าที่น่าหลงไหลนั่นไม่สามารถคาดเดาได้ว่ากำลังตั้งใจฟังสิ่งที่อาจารย์สอนหรือกำลังคิดอะไรอยู่



            เขาไม่แน่ใจว่าตัวเองวางสายตาไปที่คนนั้นนานเท่าไหร่ กลิ่นหอมอ่อนๆแตะเข้าที่ปลายจมูกเป็นระยะนั่นยิ่งทำให้เขาเหมือนกับอยู่ในห้วง เขารู้สึกเหมือนกำลังจับจ้องงานศิลปะหายากที่ถูกสร้างอย่างประณีต





            เคร้ง..





            ปากกาน้ำเงินที่เคยอยู่ในมือกลับร่วงไปอยู่กับพื้น เสียงกระทบที่ดังก้องทั่วคลาสทำให้เหล่านักศึกษาและอาจารย์หันมาให้ความสนใจเพียงครู่แล้วกลับเป็นปกติ จองกุกหันไปรอบๆอย่างช้าๆแล้วถอนหายใจ เผลอขนาดทำปากการ่วงเลยหรอวะ... เขาก้มเก็บปากกาแล้วจัดการวางให้เข้าที่บนโต๊ะเลคเชอร์ จองกุกเงยหน้าขึ้นด้วยความตั้งใจที่ว่าจะเริ่มสนใจสิ่งที่ตาแก่สอนแล้ว





            แต่มันก็พังลง





            ด้วยรอยยิ้มของคนที่นั่งริมหน้าต่างนั่น ที่กำลังสบตากับเขา แววตาประกายขบขันใต้กรอบแว่นทำให้จองกุกนิ่งงัน เพียงเสี้ยววิ อีกฝ่ายก็ผละหันกลับไป มันพังจริงๆ







            จองกุกไม่รับรู้อะไรอีกเลยหลังจากนั้น













         



         

            จองกุกยิ้มและรับเครื่องดื่มจากบาเทนเดอร์ มือหนาแกว่งแก้วในมือเบาๆพร้อมกวาดสายตาไปรอบๆ แสงสีสาดส่องตัดกับความมืดในสถานที่รื่นรมย์แห่งนี้ เสียงดนตรีกระหึ่มกลบทุกเสียงที่เอ่ย สิ่งแรกที่สะดุดตาเขาคือเพื่อนของเขาปาร์คจีมินที่มีหญิงสาวข้างกาย และมีเพื่อนในกลุ่มอยู่บริเวณรอบๆซึ่งดูไม่คิดที่จะคุยกันแต่อย่างใด เพราะมีขนมชิ้นหวานไว้ครอบครองในวงแขนทุกคน





            ขนมชิ้นหวาน...





            คนๆนั้นโผล่ขึ้นมาในหัวของจองกุกแทบทันที นั่นยิ่งทำให้จองกุกอยากจะดื่มจนสะบัดให้ออกจากหัวไปให้ได้





            แต่มันก็ไม่เคยสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกัน



            คนๆนั้น –คิมแทฮยอง เพื่อนร่วมคลาสที่ไม่ได้เจอกันบ่อย มักจะมาพร้อมกับท้องฟ้าสีฟ้าหม่นและแว่นตาไร้กรอบทุกครั้ง คนที่มักจะดึงความสนใจทุกอย่างไป ไม่เคยพูดคุยกันและทักทาย เพียงแค่สบตาและรอยยิ้มที่มักมอบให้ก็กลับทำให้จองกุสลัดภาพนั้นออกไม่ได้ทั้งวัน รวมถึงวันนี้ด้วย

         



            ทำให้อารมณ์เสียจนน่าประหลาด แต่ก็ละสายตาไปไม่ได้เลย





            เขาคิดว่ามันเป็นความหลงใหล...ความต้องการและครอบครอง...







            ไม่ใช่ความรัก..









            กริ้ง...



            เสียงกังวานของน้ำแข็งดังขึ้นข้างๆกาย เขาเหลือบตาไปมอง แวบแรกเขาเห็นเป็นแทฮยองกำลังนั่งแกว่งแก้วใส่น้ำสีอำพันส่งรอยยิ้มให้ แต่เสี้ยวต่อมาภาพก็ถูกตัดไปเป็นชายอีกคนนั่งแทนที่ เมาแล้วสินะ.. จองกุกสะบัดศีรษะตัวเองแล้วเพ่งคนตรงหน้าอีกครั้ง ภาพตรงหน้าคือชายหนุ่มใบหน้าหวานเปื้อนรอยยิ้มส่งมาให้ นิ้วเรียวที่จับแก้วใสกวักเข้าตัวช้าๆ จองกุกรู้..มันคือการเชิญชวน







            และแน่นอนว่าคนแบบเขาไม่ปฏิเสท





         















            ฟู่ว...



            ควันสีขาวถูกปล่อยออกมาจากริมฝีปากหยัก กลิ่นบุหรี่ฟุ้งลอยตามลมที่เข้ามาทางหน้าต่าง แสงแดดอ่อนๆส่องเผยให้เห็นสองร่างที่นอนอยู่บนเตียงกว้าง บนคอนโดสูงสิบกว่าชั้นทำให้ไร้เสียงรบกวนจากข้างล่าง มีเพียงเสียงนกและลมเท่านั้นที่เข้าหูจองกุก



            เขาเอี้ยวตัวไปยังหัวเตียงแล้วบี้สิ่งที่อยู่ในมือให้มอดบนที่เขี่ยบุหรี่แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เคลื่อนย้ายร่างกายที่มีมัดกล้ามสวยไม่มากเกินไร้สิ่งปกปิดไปยังห้องน้ำ ตั้งแต่ตอนนั้น กระทั่งตอนร่วมรักกับอีกคน และจนตอนนี้





            ใบหน้าที่มีรอยยิ้มสี่เหลี่ยมนั่นก็ยังไม่หายไปจากหัว





            ต้องการ ความต้องการมันมากขึ้น...







            แย่...แบบนี้มันแย่สำหรับตัวเขาจริงๆ...

         



         









   





   

            เป็นอีกคืนที่เขากลับมาที่ผับ



         

            ที่นั่งที่เดิม เครื่องดื่มแบบเดิม และเพื่อนกลุ่มเดิมซึ่งก็แยกย้ายกันเหมือนเดิม





            และแทฮยองก็ยังวนเวียนอย่ภายในหัวเขาเหมือนเดิม





            คำสบถถูกพ่นออกมาเมื่อรู้ตัวว่าเขาคิดถึงแทฮยองอีกแล้ว มือเรียวขยี้ผมตัวเองอย่างแรงแล้วกระดกเครื่องดื่มสีอำพันเข้าปาก แต่กลับมีแอลกอฮอล์เข้ากายมากเท่าไหร่ ความต้องการภายในตัวก็ยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น ยิ่งพยายามผลัก ก็ยิ่งฉายชัดขึ้นในหัวจนทรมาน





          ความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าอะไรวะ..





            จองกุกสะบัดหัวตัวเองแรงๆแล้วกวาดสายตาไปรอบๆเพื่อหาขนมหวานแทนที่คนที่อยู่ในหัวเช่นเมื่อวาน แต่ไม่ว่าจะสบตากับใครหรือโดนชักเชิญยังไง ความรู้สึกข้างในกลับบิดม้วนราวกับว่าสิ่งที่จะมาเติมเต็มได้มีเพียงคิมแทฮยองเท่านั้น ดวงตาปรือยังคงวางสายตาไปอย่างเลื่อนลอยไร้จุดหมาย





            และอีกครั้งที่เขาเห็นแทฮยอง



            จองกุกคิดว่าเป็นเพียงภาพหลอนเมื่อคราวก่อน



            แต่ถึงเพ่งขนาดไหน สะบัดหัวกี่รอบ แทฮยองก็ยังคงอยู่ตรงนั้น นั่งอยู่ริมสุดท่ามกลางกลุ่มผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ดวงตาที่เคยเรียวสวยปรือฉ่ำและไร้แว่นตาเช่นเคย ใบหน้าและผิวน้ำผึ้งกลับมีสีแดงฝาดของเลือดและรอยยิ้มสี่เหลี่ยมที่ดูจะควบคุมไม่ค่อยได้ เสื้อเชิตที่ชอบใส่คราวนี้เป็นสีดำและกระดุมเม็ดบนที่ถูกปลดหลายเม็ด เขาเห็นเห็นแทฮยอง

       

            ราวกับถูกสะกด ดวงตาสีดำขลับนิ่งค้างอยู่เนิ่นนานแต่เจ้าตัวก็ยังคงไม่รู้ตัว จนคนที่นั่งข้างๆแทฮยองสะกิดให้อีกฝ่ายรู้และหันมาสบตากับเขา ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มกว้างแล้วโบกมือเรียวของตัวเองให้ไปมาอย่างร่าเริง



            ใช่ เขารู้ว่าแทฮยองกำลังเมา



            แต่มันกลับทำให้หัวใจของเขากระตุกวาบจนเจ็บทั่วร่างกาย







            ต้องการ..





            ต้องการแทฮยองให้เป็นของเขาคนเดียว...





















            ตอนไหนไม่รู้ที่เสียงปิดประตูดังขึ้น



            แม้กระทั่งตอนที่ผลักแทฮยองลงบนเตียงส่วนตัวของตัวเองก็ยังไม่รู้สึกตัว



            ความรู้สึกล่องลอยราวกับไม่ได้ยืนอยู่บนโลกเมื่อมองสำรวจใบหน้าและร่างกายสวยงามราวกับงานศิลปะ อยากจะสัมผัส อยากจะครอบครอง อยากลิ้มรส อยากเก็บไว้ข้างกาย ความรู้สึกถาโถมเข้ามาล้นทะลักราวกับว่าตัวเขาเองต้องการสิ่งนี้มานาน



            ริมฝีปากนุ่มรสหวานที่ไม่ว่าจะชิมเท่าใดก็ไม่พอ ความต้องการที่เขาตักตวงจากอีกฝ่ายมาจากโพรงปากราวกับไม่หมดสิ้น เขารับรู้ได้ถึงความร้อนข้างในของตัวเองและแทฮยองที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว


            จองกุกไล่สายตาตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้าของอีกฝ่าย เขาต้องการเก็บภาพไว้ไม่ให้ขาดส่วนไหนไป ร่างกายที่ไร้สิ่งปกปิดเผยให้เห็นผิวสีแทนที่สวยจนอยากตีตราไว้





            ทุกการกระทำที่กำลังดำเนิน ทุกโสตเสียงที่ออกมาจากริมฝีปากบาง ทุกการตอบสนองของร่างกายอีกฝ่าย มันยิ่งทำให้จองกุกคิดว่าเขากำลังฝันไป





            และถ้าต้องตื่นมาเจอแทฮยองที่ไม่อยู่ข้างกาย







            เขาก็อยากจะอยู่ในฝันนี้ตลอดไป













         





            สิ่งแรกที่จองกุกทำเมื่อตื่นขึ้นคือหันไปมองข้างกาย



            ภาพตรงหน้าคือชายคนหนึ่งที่มีผมสีน้ำตาลเข้มและผิวสีน้ำผึ้งกำลังนอนขดและหายใจสม่ำเสมอ



            เขาไม่แปลกใจตัวเองแล้วว่าทำไมความรู้สึกโล่งใจถึงเข้ามาเมื่อเห็นแทฮยองนอนอยู่ข้างๆ







            ความรู้สึกนี้คงเรียกว่าชอบสินะ..














            end

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม